เมื่อพี่สาวของเธอหนีไปกับผู้ที่ไม่ใช่ราชวงศ์ เจ้าหญิงบีซึ่งใช้ชีวิตโดยห่างไกลจากหน้าที่ราชวงศ์ต้องเข้ามาแทนที่และให้เกียรติการแต่งงานแบบคลุมถุงชนกับเจ้าชายแห่งอาณาจักรเล็กๆ เจ้าชายเดสมอนด์แห่งอันโดรเวียและเจ้าหญิงโคราลินาแห่งวอสทิอารีได้พบกันเพียงสองครั้งเท่านั้น และกำลังจะแต่งงานกัน โดยการแต่งงานนี้จัดแจงโดยปู่ของพวกเธอ ซึ่งเป็นอดีตกษัตริย์ ก่อนที่เดสมอนด์และโคราลินาจะเกิดเสียอีก เนื่องจากอันโดรเวียและวอสทิอารีเคยเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเดียวกันที่แยกออกจากกันเมื่อสามร้อยปีก่อน โดยมีข้อพิพาทเรื่องที่ดินและความไม่ไว้วางใจจากทั้งสองฝ่าย การแต่งงานแบบคลุมถุงชนจึงเป็นเพียงมาตรการเพื่อเลื่อนข้อพิพาทนี้ออกไปให้กับคนรุ่นต่อไปในแต่ละกลุ่มกษัตริย์ตลอดสามศตวรรษซึ่งไม่สามารถตกลงกันได้โดยตรง ความไม่ไว้วางใจนั้นมีผลกับกษัตริย์ชุดปัจจุบัน ริชมอนด์และวินสตัน

เดือนมีนาคมนี้ The Hallmark Channel เตรียมนำเสนอภาพยนตร์ที่เป็น บทสดุดีแด่เรื่องราวของราชวงศ์ และเรื่องแรกที่จะออกฉายคือ The Royal We—โรแมนติกคอมเมดี้สุดหวาน ว่าด้วยเรื่องของเจ้าหญิงที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับเจ้าชายจากอาณาจักรคู่แข่งเพราะหน้าที่ทางราชวงศ์

แม้ในตอนแรก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเต็มไปด้วยความขัดแย้งและความเข้าใจผิด แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งขึ้น นอกจากนี้ ตัวหนังยัง เล่นกับขนบของเทพนิยายคลาสสิก พร้อมกับนำเสนอ มุมมองใหม่ที่ทันสมัยและเสริมพลังให้กับตัวละคร โดยเน้นไปที่ การก้าวข้ามธรรมเนียมเก่า ๆ ที่ล้าสมัย

ฉากเปิด: คู่หมั้น เจ้าชายเดสมอนด์ (Charlie Carrick) และ เจ้าหญิงโคราลินา (Nicole Posener) จากสองอาณาจักรคู่แข่ง ยืนถ่ายภาพพรีเวดดิ้งด้วยท่าทีอึดอัด

งานแต่งงานของพวกเขาเป็นเพียง ข้อตกลงทางการเมืองมากกว่าความรักแท้ และทั้งคู่ก็ดูจะไม่ค่อยเต็มใจ แสร้งทำเป็นมีความสุขต่อหน้าช่างภาพหลวง

เรื่องย่อ: เอาล่ะ... การหมั้นของเดสมอนด์และโคราลินาไม่ได้ยืดยาวนัก

หลังจากข้ามเวลาไปอย่างรวดเร็ว เราได้รู้ว่า เจ้าหญิงโคราลินาเป็นฝ่ายถอนหมั้นและหนีไปกับช่างประปา ทิ้งให้เจ้าชายเดสมอนด์ต้องเผชิญกับเรื่องทั้งหมดเพียงลำพัง

อย่างไรก็ตาม เดสมอนด์กลับรับมือกับสถานการณ์ได้ค่อนข้างสบาย ๆ เพราะเขารู้ดีว่า ตัวเองเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในข้อตกลงทางการเมืองของราชวงศ์ แต่ฝั่ง กษัตริย์และราชินีแห่งอัลโดเวียกลับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

นั่นเป็นช่วงที่เดสมอนด์คิดแผนออกมาได้ ซึ่งอาจช่วยแก้ปัญหาทางการทูตนี้ได้

เขาตัดสินใจ ตามหาน้องสาวของโคราลินา นั่นคือ เจ้าหญิงเบีย (Mallory Jansen) ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ที่บอสตันมาหลายปีและ สละฐานันดรศักดิ์ไปแล้ว เพื่อหวังว่าเธออาจจะยอมแต่งงานกับเขาแทน

แต่ปัญหาคือ เบียไม่อยากถูกพบตัว แถม ไม่มีใครในบอสตันรู้ว่าเธอเป็นเจ้าหญิง เลยด้วย

เมื่อเดสมอนด์ส่งคนไปตามหาเบียจนเจอ เธอและเพื่อนสนิท โคลอี้ (ที่ไม่ยอมให้เบียถูก ลักพาตัว เพียงลำพัง) ต้องเผชิญหน้ากับเขา เดสมอนด์อธิบายสถานการณ์ทั้งหมด ก่อนจะขอเบียแต่งงานแบบสายฟ้าแลบ

เบีย ปฏิเสธทันที แต่หลังจากคิดทบทวน เธอก็ตระหนักว่า การแต่งงานครั้งนี้อาจเป็นทางเดียวที่จะยุติความตึงเครียดระหว่างสองอาณาจักร สุดท้ายเธอจึง ยอมตกลงหมั้น…ชั่วคราว อย่างน้อยก็จนกว่าจะหาทางออกที่ดีกว่านี้ได้

ในตอนแรก เบียและเดสมอนด์เข้ากันไม่ค่อยได้ ต่างฝ่ายต่างมีทัศนคติที่ขัดแย้งกัน แต่ไม่นาน เบียก็ทำให้เดสมอนด์ผ่อนคลายขึ้น ส่วนเดสมอนด์เองก็ทำให้เธอเห็นว่า เขาไม่ได้เป็นนักกีฬาขี่ม้าโปโลที่เจ้าระเบียบและหยิ่งยโสอย่างที่เธอคิด

เมื่อสื่อเริ่มให้ความสนใจกับความสัมพันธ์ของพวกเขา ทั้งคู่จึงต้อง ร่วมมือกันอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างต้องการ เบียเองเคยเลือกจะออกจากชีวิตราชวงศ์เพื่อหลีกหนีจากสปอตไลต์ แต่ตอนนี้เธอกลับ กลายเป็นเจ้าหญิงของประชาชนโดยไม่ทันตั้งตัว เนื่องจากบุคลิกที่เป็นกันเองและความสามารถในการเข้าถึงผู้คนจากชีวิตที่เธอเคยใช้ในฐานะคนธรรมดา