The Adventures of Jurassic Pet 2: The Lost Secret เป็นภาคต่อของภาพยนตร์ที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน อาจเป็นเพราะมันไม่เคยเข้าฉายในสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม เมื่อฉันได้รับคำขอให้รีวิวเรื่องนี้ ฉันก็รู้สึกสนใจขึ้นมา

ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย Ryan Bellgardt และ Chris Hoyt และเล่าเรื่องราวของเวนดี้ เจนกินส์ (รับบทโดย Sophie Proctor) วัยรุ่นผู้รักการผจญภัย และคุณยายผู้เฉลียวฉลาดของเธอ (Tadrina Green รับบทโดย Carolyn Josephine Wright) ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ของประตูเวทมนตร์ที่นำไปสู่ดินแดนไดโนเสาร์ อย่างไรก็ตาม ประตูนี้จะเปิดได้เพียงเดือนละครั้งในช่วงคืนพระจันทร์เต็มดวง

หลังจากการเดินทางผ่านประตูในครั้งหนึ่ง เวนดี้กลับพบสิ่งที่เกินความคาดหมาย เมื่อไดโนเสาร์ทารกชื่อ จูเนียร์ ไม่ได้กลับไปพร้อมครอบครัวของมัน แต่กลับติดตามเวนดี้และคุณยายของเธอกลับมายังโลกมนุษย์แทน

พวกเขาตัดสินใจว่าแนวทางที่ดีที่สุดคือการดูแลจูเนียร์ให้ปลอดภัยจนกว่าประตูมิติจะเปิดขึ้นอีกครั้ง เวนดี้และเคอร์ติส (รับบทโดย Myles Currin-Moore) เพื่อนใหม่ของเธอซึ่งเป็นเด็กกำพร้าที่ครอบครัวของเวนดี้รับอุปการะ ต้องคอยเฝ้าดูแลจูเนียร์อย่างใกล้ชิด แต่ถ้ามันง่ายขนาดนั้นก็คงจะดี  

ปัญหาคือ นายกเทศมนตรีของเมือง (รับบทโดย Drew Pollock) เป็นคนชั่วร้าย และร่วมกับสมุนของเขา บาร์นีย์ (LaRonn Marzett) และไคลด์ (Rahjzae Moore) พวกเขากำลังดำเนินธุรกิจโรงงานผลิตสารพิษสังเคราะห์ที่เลียนแบบพิษของแมลงวันเซทซีจากแอฟริกา ซึ่งหากได้รับพิษนี้ จะทำให้เกิดอาการป่วยจากการหลับใหล—เหมาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการ...ปล้นธนาคาร

เมื่อคุณยายของเวนดี้หกล้ม จูเนียร์เผลอกดเรียกรถพยาบาลโดยไม่ได้ตั้งใจ และเมื่อเธอถูกพาตัวไป จูเนียร์จึงต้องเผชิญโลกตามลำพัง  

เวนดี้และเคอร์ติสจะสามารถตามหาจูเนียร์ ช่วยเหลือเขา และหยุดเหล่าวายร้ายจากการวางยาพิษคนทั้งเมืองได้หรือไม่? คงต้องติดตามชมเพื่อหาคำตอบ!