แม้จะใช้เวลาสักพัก แต่ในที่สุด ภาพยนตร์ระทึกขวัญของ Lifetime ก็ทำให้ผิดหวัง

The Beach House Murders ของ ดั๊ก แคมป์เบลล์ (Doug Campbell) อาจมีชื่อเรื่องที่ชวนติดตาม แต่ จุดหักมุมและความซับซ้อนของเรื่องกลับไม่ได้รับการวางรากฐานอย่างดีตลอดทั้งเรื่อง

เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ นักเขียนนิยายสืบสวนคดีฆาตกรรม ที่ถูกหลอกหลอนโดยอดีตสามีของเธอ เธอพบกับชายคนใหม่หลายคน แต่กลับ ไม่สามารถเชื่อใจใครได้เลยเพราะบาดแผลในใจที่เธอแบกรับมา

เมื่อเรื่องราวดำเนินไป เหตุการณ์ลึกลับและการฆาตกรรมมากมายเริ่มเกิดขึ้นรอบๆ บ้านพักริมชายหาด ซึ่งเป็นที่ที่ตัวเอกอาศัยอยู่ นำไปสู่ปริศนาที่ชวนให้สงสัยว่า ใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด

หนังเปิดเรื่องด้วย ซาร่าห์ ตัวเอกของเรื่อง ขณะที่เธอกำลังเตรียมตัวสำหรับบางเหตุการณ์ จู่ๆ ก็มีใครบางคนบุกเข้ามาในบ้านและผลักเธอ

ในฉากถัดมา ซาร่าห์นอนจมกองเลือดบนพื้น ขณะที่ตำรวจพบ ไมลส์ (Miles) สามีของเธอ อยู่ในห้องน้ำ มือของเขาเปื้อนเลือดและตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว รู้ดีว่า ซาร่าห์อาจเสียชีวิตแล้ว

เป็นเพื่อนบ้านที่แจ้งตำรวจเข้ามายังที่เกิดเหตุ และพวกเขาก็เริ่มเข้าควบคุมสถานการณ์

หนึ่งปีผ่านไปหลังจากเหตุการณ์นั้น ซาร่าห์สะดุ้งตื่นจากเตียง ราวกับว่าเธอเพิ่งฝันร้าย

ไมลส์ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานพยายามฆ่าซาร่าห์ ขณะที่ อลิซ (Alice) เอเจนต์และเพื่อนสนิทของเธอมาเคาะประตูบ้าน พร้อมข่าวว่า สำนักพิมพ์กำลังกดดันให้เธอเขียนหนังสือเล่มใหม่

อย่างไรก็ตาม ซาร่าห์กลับขาดสมาธิและตกอยู่ในภาวะตันทางการเขียน (Writer’s Block) ทำให้เธอไม่สามารถสร้างสรรค์งานใหม่ได้ อลิซจึงแนะนำให้เธอไปพักผ่อนที่ บ้านพักริมชายหาด เพื่อหลีกหนีจากความเครียดและสิ่งที่เธอเคยเผชิญมา

ทันทีที่ ซาร่าห์ก้าวเข้าไปในบ้านพักริมชายหาด เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้น เพราะเชื่อว่า เธอไม่ต้องหวาดกลัวอะไรอีกต่อไป

เธอออกไปวิ่งเล่นบนชายหาด และได้พบกับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง ซึ่งแนะนำตัวว่าเป็นแฟนตัวยงของเธอ ต่อมา ซาร่าห์ได้พบกับชายอีกคนในบาร์ ซึ่งแนะนำตัวว่า โทนี่ (Tony)

ทั้งสองใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข โทนี่ให้เบอร์โทรศัพท์กับซาร่าห์ ปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายตัดสินใจว่าอยากพบกันอีกหรือไม่