Currently available on 1 streaming service.
Year:2025 Duration: 1 : 34 h.
IMDb RATING : 4.3 / 10
Director : Jeremy Drummond
We Kill Them All วางรากฐานของการเป็นหนังระทึกขวัญที่อาจน่าติดตามได้ ผู้กำกับ เจเรมี ดรัมมอนด์ และผู้เขียนบท นิโคล ฟีลด์ ให้เวลากับการพัฒนาให้ผู้ชมได้ทำความรู้จักกับตัวละครหลักทั้งสอง พร้อมทั้งนำเสนอพล็อตที่น่าสนใจ ซึ่งหากดำเนินเรื่องได้ดี ก็มีศักยภาพที่จะเป็นหนังที่น่าตื่นเต้น
อย่างไรก็ตาม We Kill Them All กลับไม่สามารถยกระดับเรื่องราวไปไกลกว่าพื้นฐานที่วางไว้ได้ ตัวหนังดูเหมือนไม่รู้วิธีต่อยอดจากจุดเริ่มต้น และพยายามทำให้แนวคิดนี้เวิร์กแต่กลับล้มเหลว หนังดูเหมือนจะยึดแนวคิดว่า ยิ่งน้อยยิ่งดี แต่ข้อบกพร่องของเรื่องราวกลับพิสูจน์ให้เห็นว่าสำหรับเรื่องนี้ วิธีนั้นใช้ไม่ได้ผล
We Kill Them All เล่าเรื่องราวของเมแกน (โคลอี แมคเคลย์) หญิงสาวที่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นกับพ่อของเธอ แต่ก็ยินดีพยายามประนีประนอมเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ หลังจากการสูญเสียแม่ของเธอ
เธอตัดสินใจไปพบพ่อที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง แต่เมื่อไปถึงพร้อมกับแฟนสาวของเธอ เลน (เอ็มมา นิวตัน) กลับต้องตกใจเมื่อพบว่าอาชญากรจากอดีตของพ่อได้ยึดสถานที่ไว้แล้ว พวกมันกำลังตามหาบางสิ่งที่พ่อของเธอซ่อนไว้ และจะไม่ยอมไปไหนจนกว่าจะเจอ
จุดเด่นที่สุดของ We Kill Them All คือการที่ผู้กำกับ ดรัมมอนด์ และมือเขียนบท ฟีลด์ ทุ่มเวลาอย่างมากในการทำให้ผู้ชมได้รู้จักกับตัวละครหลักอย่างเมแกนและเลน
ในช่วงต้นของเรื่อง เราจะได้สำรวจบุคลิกของทั้งคู่ รวมถึงไดนามิกในความสัมพันธ์ของพวกเธอ และแม้แต่ปมปัญหาบางอย่างจากอดีต นอกจากนี้ ดรัมมอนด์ยังเลือกแนวทางการเล่าเรื่องที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพยนตร์ โดยเปิดเรื่องด้วยสองเส้นเรื่องที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกันเลยในตอนแรก อย่างน้อยที่สุด วิธีนี้ทำให้ผู้ชมอยากรู้ว่าทั้งสองเส้นเรื่องจะมาบรรจบกันได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เมแกนและเลนมาถึงรีสอร์ต พวกเธอกลับถูกจับกุมและถูกบังคับให้ร่วมมือกับเหล่าวายร้าย
จากจุดนี้เอง หนังกลายเป็นเรื่องของความอดทน—ว่าผู้ชมจะทนดูอันธพาลชักปืนขู่ใส่หน้าคนอื่นได้อีกนานแค่ไหน และจะมีฉากที่สองตัวละครหนีแล้วถูกจับกลับมาอีกกี่ครั้ง และใช่... สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตลอดทั้งเรื่อง
เมื่อ We Kill Them All พยายามเพิ่มระดับความรุนแรง ฉากเหล่านั้นกลับถูกนำเสนออย่างลวกๆ จนไม่น่าเชื่อถือ
ตัวอย่างเช่น มีฉากหนึ่งที่ควรจะดูโหดเหี้ยม เลนถูกมัดมือทั้งสองข้างด้วยลวดหนาม แต่เมื่อกล้องจับภาพข้อมือของเธอชัดๆ เรากลับเห็นเพียงรอยเลือดแห้ง โดยไม่มีบาดแผลใดๆ เลย
มันอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่รายละเอียดแบบนี้ทำให้ผู้ชมหลุดออกจากอารมณ์หนัง และเตือนให้รู้สึกว่าสิ่งที่กำลังดูอยู่นั้นไม่ใช่ของจริง
นอกจากนี้ We Kill Them All ยังไม่สามารถทำให้ชัดเจนได้ว่ากลุ่มอาชญากรที่ยึดรีสอร์ตนั้นเป็นพวกซาดิสม์ หรือแค่โง่กันแน่
พวกเขาปล่อยให้สองสาวหนีรอดไปได้หลายครั้ง แทบไม่เคยทำตามคำขู่จริงๆ และเหตุผลที่พวกเขายังคงทรมานพวกเธอก็เพราะเชื่อว่าพวกเธอกำลังปกปิดข้อมูลสำคัญ อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับไม่มีวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการรีดเอาข้อมูลออกมาเลย
หลังจากค่ำคืนแห่งการทรมาน ผ่านไปแล้ว ก็ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะยังไม่เริ่มคิดสักนิดว่า บางทีผู้หญิงสองคนนี้อาจไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังหาอยู่เลย
We Kill Them All จะมีศักยภาพมากกว่านี้หาก Field สามารถยกระดับเรื่องราวไปอีกขั้น
ความสัมพันธ์ของเมแกนกับพ่อของเธอกลับไม่ส่งผลสำคัญต่อเนื้อเรื่องโดยรวม และการที่ตัวร้ายดูเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่แทบไม่เคยเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับหนังแนวนี้
ความกลัวที่จะเสี่ยงของหนัง ส่งผลให้ทุกสิ่งที่สร้างมาเพื่อให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วมกับตัวละครต้องพังทลายลงไปในที่สุด ทิ้งไว้เพียงหนังระทึกขวัญที่ไม่น่าตื่นเต้น แต่กลับจืดชืดและน่าผิดหวัง